กทพ. ลงนามบันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือในการพิจารณาการเชื่อมต่อทางพิเศษ จากกรุงเทพมหานครสู่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เพื่อเชื่อมต่อสองเมืองหลวงของไทย
วันนี้ ( 5 มีนาคม 2557 ) เวลา 14.00 น. ณ ห้องรับรอง ศาลากลางจังหวัดพระนครศรีอยุธยา นายอัยยณัฐ ถินอภัย ผู้ว่าการการทางพิเศษแห่งประเทศไทย ( กทพ. ) และ นายวิทยา ผิวผ่อง ผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ได้ร่วมลงนามบันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือในการพิจารณาการเชื่อมต่อ ทางพิเศษจากกรุงเทพมหานคร เข้าสู่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ทั้งนี้จะเป็นทางพิเศษสายแรกที่เชื่อมต่อสองเมืองหลวงไทย กรุงเทพมหานครสู่พระนครศรีอยุธยา
นายอัยยณัฐ ถินอภัย ผู้ว่าการ กทพ. เปิดเผยรายละเอียดว่า การลงนามบันทึกความเข้าใจฯ ในวันนี้ นับเป็นก้าวแรกของการก่อสร้างทางพิเศษเชื่อมต่อระหว่างกรุงเทพมหานคร กับ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา อดีตเมืองหลวงของไทย อีกทั้งยังมีความสำคัญเป็นเมืองมรดกโลก กทพ. จึงมีความภูมิใจอย่างยิ่งที่ได้มีส่วนร่วม ในการพัฒนาโครงข่ายให้ครอบคลุมทั่วถึงยิ่งขึ้น โดยมีโครงการที่จะดำเนินการขยายทางพิเศษอุดรรัถยาออกไปจนถึงอำเภอบางปะหัน จังหวัดพระนครศรีอยุธยา โดยคำนึงถึงการพัฒนาเมือง อุตสาหกรรม เกษตรกรรม และการท่องเที่ยว ซึ่งจะก่อให้เกิดประสิทธิภาพในการเดินทาง ขนส่งสินค้า อันจะเป็นประโยชน์ต่อเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศ สำหรับพิธีลงนามบันทึกความเข้าใจนี้ เป็นการลงนามบันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือในการ พิจรณาความเหมาะสมและความเป็นไปได้ในเชื่อมต่อทางพิเศษจากกรุงเทพมหานครเข้าสู่ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา โดยมีวัตถุประสงค์ ดังนี้
- เพื่อเป็นการร่วมมือกันระหว่างการทางพิเศษแห่งประเทศไทย กับจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ในการดำเนินโครงการทางพิเศษอุดรรัถยา – พระนครศรีอยุธยา
- เพื่อการประสานงาน การแลกเปลี่ยนข้อมูลและแผนงานการดำเนินโครงการกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในจังหวัด
- เพื่อสนับสนุนส่งเสริมบุคลากรให้มีการแลกเปลี่ยน เรียนรู้ในด้านต่างๆ อาทิ ด้านการคมนาคมขนส่ง เพื่อรองรับการพัฒนาโครงการของแต่ละหน่วยงาน
ทั้งนี้ บันทึกความเข้าใจฉบับนี้จะมีระยะเวลา 3 ปี นับแต่วันที่ลงนามและมีผลบังคับใช้ ซึ่ง กทพ. และ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา จะได้ประสานความร่วมมือระหว่างกัน ในการสนับสนุนการดำเนินงาน ตลอดจนติดตามประเมินผลการดำเนินงานพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อไป
อนึ่ง โครงการทางพิเศษสายนี้ คือ โครงการทางพิเศษอุดรรัถยา – พระนครศรีอยุธยา จะมีแนวสายทางต่อเชื่อมจากทางพิเศษอุดรรัถยาที่บริเวณด่านเก็บค่าผ่านทางพิเศษบางปะอิน อำเภอบางปะอิน ผ่าน อำเภอพระนครศรีอยุธยาไปสิ้นสุดที่อำเภอบางปะหัน บริเวณจุดตัดกับทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 32 รวมระยะทางประมาณ 35 กิโลเมตร นอกจากนี้ยังได้มีการวางแผนให้มีการเชื่อมต่อจากทางพิเศษฯไปยังศูนย์ศิลปาชีพบางไทรอีกด้วย
สนันสนุนข้อมูลจาก Expressway Authorithy Thailand