สวัสดีครับวันนี้เรามาทำความรู้จักกับรถยนต์อินดี้ที่ได้แรงบันดาลใจมาจากมอเตอร์ไซด์ ดีไซด์มที่ทำให้ดูมีรูปลักษณ์ที่โดดเด่นด้วยลายเส้นที่ดูแปลกตาทั้งภายในและภายนอก ไฟหน้าที่โดดเด่นและภายในที่ดูเป็นเอกลักษณ์หนึ่งเดียวในตลาดตอนนี้เรามาดูกันดีกว่าว่าเจ้า Chevrolet Sonic คันนี้มันเหมาะกันความเป็นตัวเองของคุณหรือไม่
ความโดดเด่นภายนอก
เป็นการออกแบบที่คนที่ชื่นชอบมอเตอร์ไซค์บิ๊กไบค์ต้องหันมองเลยทีเดียวกับไฟหน้าที่เป็นเอกลักษณ์และกระจังหน้าแบบ Chevy ที่ให้ความรู้สึดโฉบเฉี่ยวที่มีสไตร์อเมริกัน พร้อมกับกระจกมองข้างพร้อมไฟเลี้ยว
การออกแบบประตูข้างที่ออกแบบให้ที่จับเปิดประตูอยู่บริเวณด้านบนทำให้ดูมีสไตร์มากขึ้น พร้อมกับลายเส้นที่ทำให้ดูเป็น Sport hatchback ที่มีความดุดันมากเลยทีเดียว
ท้ายรถโดดเด่นด้วยไฟท้ายที่ออกแบบด้วยทรงกลมโดยการใช้พื้นที่ของทรงกลมทำให้ดูไกลแล้วก็รู้ได้เลยว่าคันหน้าคือ Sonic อย่างแน่นอน แต่ยังไงก็ดูขัดใจนิดหน่อยกับท้ายที่ดูไม่ดุดันเหมือนกับการออกแบบโดยรวมรอบรถที่ได้เห็นกัน
ความดึงดูดภายใน
ความดึงดูดที่หลายคนต้องจับตามองกับคอนโซลหน้าที่ดูมีมิติและน่าสนใจกับการดีไซด์ที่แปลกตาด้วยหน้าปัดที่แตกต่างจากรถยนต์ธรรมดา ด้วยหน้าจอดิจิตอลที่เหมือนขับอยู่บนบิ๊กไบค์ภาพลักษณ์โดยรวมในการขับขี้เป็นการออกแบบที่ทำให้ดูมีสไตร์มากเลยทีเดียว
ที่โดดเด่นที่สุดเห็นจะเป็นหน้าปัดที่แสดงผสมผสานระหว่างดิจิตอลและแบบเข็มได้อย่างลงตัวองค์ประกอบการแสดงที่มีความเป็นตัวเองเรียกได้ว่าอินดี้สุดๆทำให้ดูโดดเด่นที่สุดในคอลโซลหน้าเลยทีเดียว
ช่องเก็บสัมภาระด้านหน้าทำออกมาดูกระทัดรัดด้านล้างจุของได้ไม่เยอะนัดแต่การออกแบบด้านบนถือว่าทำได้เหมาะกับการใช้งานเป็นการจัดวางเอาช่อง USB และ AUX ไว้ด้านในพร้อมมีสล็อตในการว่าเครื่องเล่นหรือจะเป็นที่จัดเก็บ CD ก็ได้
อีกจุดหนึ่งคือหน้าจอขนาด 7 นิ้ว แบบทัชสกรีนเพียงปลายนิวสัมพัสก็จะสามารถเข้าถึงระบบเชื่อมต่อทั้ง AM,FM,AUX,USB และ Bluetooth ได้ง่ายๆ ที่โดดเด่นคือสามารถดึงภาพยนต์มาขึ้นจอได้เลยผ่าน USB และ AUX หรือจะดูเป็น Gallery ภาพก็ย่อมได้ น่าเล่นมากเลยใช้ไหมครับ นอกจากกล่าวมานี้ยังมีสิ่งที่ทาง Chevrolet ภูมิใจที่จะนำเสนออีกหนึ่งระบบ คือ ระบบ My link ที่จะเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟนของคุณและสามารถดึงข้อมูลมาแสดงได้อย่างครบท่วน เขาว่ากันว่ามันสามารถเชื่อมต่อกับ Siri ได้ด้วยนะครับตอนเทสไม่ได้ลองต้องขออภัยมานะที่นี้ด้วยครับแต่รับรองว่าแค่ดูหนังฟังเพลงก็ขับแบบเพลินๆกันแล้วหละครับ
มาดูตรงกลางที่ทำออกมาให้ดูเรียบง่ายแต่เกิดประโยชน์ใช้สอยได้อย่างดีที่ชอบคือช่องวางเหรียญที่น้อยคันจะใส่ใจในเรื่องเล็กๆแบบนี้
ความอินดี้ยังไม่หมดแค่นี้หันมองไปด้านบนขวาของคนขับจะเห็นกล่องใส่แว่นที่ออกแบบมาแทนที่ยึดอันนี้โดยส่วนตัวก็ชอบมากครับเพราะไอที่ยึดเนียบอกตรงๆเวลาขับไม่เคยได้ใช้เลยถือว่าเป็นการจัดวางที่ฉลาดมากเลยทีเดียว
เบาะน่าเสียดายที่ไม่มีเบาะหนังให้เลือกใช้กันแต่เบาะนั้งสบายครับไม่ใช้ทรงสปอร์ตแบบที่ปัจจุยันนิยมเอามาออกแบบจากโรงงานแต่การใช้งานถือว่าเหมาะสมครับกับเบาะของ Sonic
เบาะด้านคนขับมีที่วางแขนให้ด้วยขับทางไกลสบายๆขับแบบชิวๆอินดี้ๆแต่ถ้าจะเอามาใช้ในเมืองบอกเลยลำบากครับเพราะตำแหน่งไม่เหมาะในการเข้าเกียร์
ประตูทั้ง 4 บานออกแบบด้วยสีดำและเทาทำให้ดูมีราคาส่วนระบบล็อคใช้แบบกดและดึงอยู่แต่เป็นระบบไฟฟ้าทั้งหมดครับ
ที่บังแดดอันนี้ดูเป็นจุดอ่อนครับเนื่องจากไม่มีที่ปิดหน้ากระจกเวลาใช้งานในประเทศไทยแล้วเอามาบังแดดด้านข้างเนียผมละสงสารขันข้างๆจะโดนแสงกระเด็นเข้าตาซะจริงๆ
ขุมกำลังความอินดี้
ขุมกำลังคือ เครื่องยนต์เบนซิน ECOTEC แบบดับเบิลโอเวอร์เฮดแคมชาฟท์ หรือ DOHC นั้นเอง เป็นสูบแถวเรียง 4 สูบ 16 วาล์ว 1,598 CC หัวฉีด MPFI ติดมาด้วยเกียร์ Double CVT กำลังแรงม้า 115 HP ที่ 6,000 rpm แรงบิดสูงสุด 155 Nm ที่ 4,000 rpm ที่หล่อที่สุดเห็นจะเป็นรองรับ E85 ได้ด้วยนะครับ
นอกจากนั้นยังเพิ่มความมันในการขับขี่ด้วยระบบเกียร์ Toggle Switch ที่สามารถเข้าเกียร์ได้ด้วยการกดปุ่ม + หรือ – เรียกความสนุกขึ้นมาได้ในการขับขี่บนท้องถนน
ภาพรวมสมรรถนะการขับขี่
หลังจากการได้ทดสอบ ทั้งนั้ง ทั้งขับ ทั้งซิ่ง ทั้งติด เรียกได้ว่าเป็นรถที่ขับยากเอาการเนื่องด้วยการเซ็ทพวงมาลัยมาค่อนข้างแข็งกว่ารถหลายๆรุ่นที่ได้เคยทดสอบกันมา แต่ก็ไม่ได้หนักจนเกินไปผู้ที่ชอบพวงมาลัยหนักๆอาจจะชอบก็ได้
มุมมองการขับขี้ถือว่าทำได้ดีโดยเฉพาะกับกระจกข้างที่ดีไซด์ให้มองมุมกว้างด้านล้างได้อย่างชัดเจนมุมมองการขับขี้สามารถมองได้อย่างง่ายดายรอบทิศ
ที่โดดเด่นที่สุดในรถคันนี้ คือ Euro-Ride Tuning Suspension ช่วงล้างที่หนึบการเข้าโค้งด้วยความเร็วทำได้ดีออกแบบมาได้ลงตัวไม่เกิดอาการย้วยหลังออกโค้งและในขณะเข้าโค้งมีการส่งแรงจากซ้ายไปขวาได้ดีเรียกได้ว่าต้องให้เครดิตกับผู้ออกแบบช่วงล้างเขาเลยทีเดียว
ในเรื่องของเครื่องยนต์และเกียร์กับประสิทธิภาพการขับขี่ถือว่าไม่ได้ทำมาเพื่อการขับขี่ที่เน้นการขับขี่แบบ Sport เพราะจังหวะการเปลี่ยนเกียร์และจังหวะของเครื่องยนต์นั้นได้เซ็ทมาให้เปลี่ยนได้ช้า การขับด้วยเกียร์ D จึงเหมาะแก่การขับเลื่อยๆบนถนนในเมืองเท่านั้น ถ้าอยากจะขับขี้ด้วยอารม Sport ก็เข้าไปโหมดการใช้เกียร์ แบบ + – ได้เลยจะสร้างความ Sport ในการขับขี่ขึ้นมาทันที แต่ถือว่าต้องทำการบ้านในเรื่องการเปลี่ยนเกียร์ขึ้นลงมากหน่อยเพราะ ระดับเกียร์ 6 speeds ควรจะเปลี่ยนเกียร์ได้เร็วมากกว่านี้
แต่การขับขี่ก็ยังเชื่อใจได้กับระบบความปลอดภัยที่ติมมาพร้อมกับรถที่ได้มาตรฐานจากโรงงาน
สรุปว่า Chevrolet Sonic คันนี้เหามะสำหรับชาวอินดี้ทั้งหลายที่ชื่นชอบความแตกต่างบนท้องถนน ที่ไม่แน่นการขับขี่โลดโผน แต่แน่นความสบายๆในการขับขี่ขับแบบชิวๆ ไม่ว่าจะใกล้หรือไกล Sonic ก็พาคุณไปถึงได้อย่างมั้นใจ ชาวอินดี้ทั้งหลายอย่าลืมไปทดลองกันนะครับเชื่อเลยว่านี้แหละจะเป็น “Sonic so You”